ทำไม SBTi ถึงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัททั่วโลก

Science-Based Targets initiative (SBTi) คืออะไร?

Science-Based Targets initiative (SBTi) คือองค์กรระดับโลกที่ขับเคลื่อนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในภาคธุรกิจและสถาบันการเงิน โดยกำหนดมาตรฐาน เครื่องมือ และแนวทางปฏิบัติ เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ กำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่ "สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ" และสนับสนุนเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก

เป้าหมายของ SBTi ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • สอดคล้องกับ 1.5°C สำหรับเป้าหมายระยะใกล้ และ Net Zero ปี 2050 สำหรับเป้าหมายระยะยาว
  • ครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้ง Scope 1, 2, และ 3 (โดยเฉพาะ Scope 3 หากมีนัยสำคัญ)
  •  ได้รับการตรวจสอบและรับรองแผนการดำเนินงาน โดย SBTi
  • รายงานความคืบหน้า เป็นประจำSBTi (Science-Based Targets initiative

ทำไม SBTi ถึงสำคัญกับห่วงโซ่อุปทาน

1.Scope 3 – ตัวการปล่อยคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุด

  • Scope 1: การปล่อยตรงจากกิจกรรมขององค์กร (เช่น เชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงาน)
  • Scope 2: การปล่อยจากไฟฟ้า/พลังงานที่ซื้อมา
  • Scope 3: การปล่อยจากกิจกรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน เช่น วัตถุดิบ การขนส่ง การใช้และกำจัดผลิตภัณฑ์

ในหลายอุตสาหกรรม Scope 3 มีสัดส่วน มากกว่า 80% ของการปล่อยทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถเพิกเฉยได้

2.แรงกดดันจากผู้บริโภคและนักลงทุน

  • ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  • นักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, Governance) ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กฎหมายใหม่ เช่น EU Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) กำหนดให้สินค้านำเข้าต้องมีข้อมูลคาร์บอนโปร่งใส

3. แนวทางการมีส่วนร่วมของซัพพลายเออร์ (Supplier Engagement)
SBTi ได้ออก Supplier Engagement Guidance เพื่อให้องค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายให้ ซัพพลายเออร์รายสำคัญ ตั้ง Science-Based Targets ภายในกรอบเวลา เช่น 5 ปี วิธีนี้ช่วยให้การลดคาร์บอน “ไหลลงไปทั้งห่วงโซ่อุปทาน” ไม่ใช่จำกัดแค่บริษัทแม่

กรณีศึกษา: SCBX – สถาบันการเงินไทยรายแรกที่ได้การรับรองจาก SBTi
SCBX เป็นบริษัทแม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธุรกิจการเงินในเครือ มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการเงินดิจิทัลและการลงทุนที่ยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มโลกด้าน Net Zero และความคาดหวังของนักลงทุนสากล SCBX จึงตัดสินใจเข้าร่วม Science-Based Targets initiative (SBTi) และกลายเป็น สถาบันการเงินรายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะใกล้ (near-term target)
เป้าหมายที่ SCBX ตั้งไว้

  • Scope 1 & 2 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2030 (เมื่อเทียบกับปีฐาน 2023
  • Net Zero 2050 ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ใน Scope 1, 2 และ 3 รวมถึง พอร์ตการลงทุนและสินเชื่อ ภายในปี 2050
  • ใช้เครื่องมือมาตรฐานของ SBTi เช่น Sectoral Decarbonisation Approach (SDA) → เพื่อกำหนดเป้าหมายตามภาคอุตสาหกรรม และImplied Temperature Rise (ITR) → เพื่อประเมินว่าเป้าหมายของพอร์ตโฟลิโอสอดคล้องกับเส้นทาง 1.5°C หรือไม่

ผลลัพธ์และความคาดหวัง

  • SCBX ได้รับการยอมรับว่าเป็น ผู้นำด้านสถาบันการเงินสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน
  • การได้รับการรับรองจาก SBTi ช่วยเสริมความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ว่า SCBX มีเป้าหมายที่ “สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์” ไม่ใช่เพียงคำประกาศ
  • คาดว่าจะสามารถดึงดูดเงินทุนที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) และพันธมิตรระดับโลกมาร่วมลงทุนในธุรกิจ Net Zero

SBTi ไม่ใช่เพียง “มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม” แต่เป็น กลยุทธ์ธุรกิจในยุค Net Zero เพราะช่วยให้องค์กรและห่วงโซ่อุปทานสามารถ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซตามหลักวิทยาศาสตร์, ตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้บริโภค นักลงทุน และกฎหมาย, เพิ่มความยั่งยืนและความสามารถในการแข่งขัน
กล่าวได้ว่า SBTi คือ มาตรฐานใหม่ของห่วงโซ่อุปทานโลก ที่จะอยู่คู่กับการทำธุรกิจในทศวรรษหน้า

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้