Carbon Removal Credits (CDR) คาร์บอนเครดิตรุ่นใหม่ที่โลกกำลังจับตามอง

ตัวย่อ CDR มาจากคำว่า Carbon Dioxide Removal ในทางวิชาการและรายงานของ IPCC หรือ Oxford Principles ใช้คำว่า Carbon Dioxide Removal (CDR) เพื่ออธิบายกิจกรรม/เทคโนโลยีที่ ดึง CO₂ ออกจากบรรยากาศและกักเก็บอย่างถาวร เมื่อกิจกรรมเหล่านี้ถูกนำมาออกเป็นคาร์บอนเครดิต จึงเรียกว่า Carbon Removal Credits หรือบางครั้งเรียกสั้น ๆ ว่า CDR Credits ดังนั้น CDR ไม่ได้ย่อมาจาก “Carbon Removal Credits” โดยตรง แต่เป็นการหยิบคำย่อ CDR = Carbon Dioxide Removal

ต่างจากเครดิตแบบเดิมที่มาจากการ หลีกเลี่ยงหรือลดการปล่อย (Avoidance/Reduction Credits) เช่น โครงการพลังงานหมุนเวียน CDR มาจากการ ดึงคาร์บอนออกจากอากาศและกักเก็บอย่างถาวร ทำให้เครดิตประเภทนี้มีมูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการขององค์กรระดับโลกที่จริงจังกับ Net Zero

ตัวอย่างเทคโนโลยีและแนวทางที่สร้าง CDR ได้แก่

1.เทคโนโลยี (Engineered CDR)

1.1 Direct Air Capture (DAC) เครื่องจักรดูด CO2 จากอากาศ แล้วอัดเก็บไว้ใต้ดินในแหล่งกักเก็บทางธรณีวิทยา
1.2 BECCS (Bioenergy with Carbon Capture and Storage) เผาชีวมวลเพื่อผลิตพลังงาน แล้วดักจับและกักเก็บคาร์บอน

2.ชีวภาพ (Nature-based CDR)

2.1 Biochar การนำเศษวัสดุชีวมวลมาเผาที่อุณหภูมิต่ำเพื่อกักเก็บคาร์บอนในรูปถ่านชีวภาพ และนำไปใช้ในเกษตร
2.2 Forestation / Reforestation การปลูกป่าหรือฟื้นฟูป่า แต่ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าคาร์บอนถูกกักเก็บระยะยาว
2.3 Blue Carbon การกักเก็บคาร์บอนในระบบนิเวศทางทะเล เช่น ป่าชายเลน หญ้าทะเล
2.4 Afforestation/Reforestation การปลูกป่าหรือฟื้นฟูป่า แต่ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าคาร์บอนถูกกักเก็บระยะยาว

Case Study องค์กรที่ใช้ Carbon Removal Credits (CDR) จริง

1.Microsoft – Carbon Negative by 2030
Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่ประกาศใช้ CDR ในเชิงพาณิชย์จริงลงทุนกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์ ในการซื้อเครดิตจากเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น

  • Direct Air Capture (DAC) ซื้อเครดิตจากโครงการ Climeworks ในไอซ์แลนด์ ที่ดูด CO2 ออกจากอากาศและกักเก็บในหินบะซอลต์ใต้ดิน
  • Biochar สนับสนุนโครงการเปลี่ยนเศษชีวมวลเป็น Biochar เพื่อลดคาร์บอนและเพิ่มคุณภาพดิน
  • Forestation & Soil Carbon: ฟื้นฟูป่าและเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำ

ผลลัพธ์: Microsoft รายงานว่าได้ซื้อ CDR มากกว่า 1.4 ล้านตัน CO2e ภายในปี 2023
ที่มา: Microsoft Sustainability Report 2024

ความต่างระหว่าง Reduction Credits vs Removal Credits

  • Reduction/Avoidance Credit ลดการปล่อย เช่น โครงการพลังงานหมุนเวียน, การเปลี่ยนเชื้อเพลิง → ป้องกัน CO₂ ใหม่ไม่ให้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
  • Removal Credit  ดึง CO₂ ที่มีอยู่แล้วในอากาศออก และกักเก็บไว้

ตลาดโลกเริ่มให้ความสำคัญกับ “Removal” เพราะมั่นใจได้ว่ามีการลดคาร์บอนจริง ๆ ไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยง

โอกาสของประเทศไทย
1.Biochar และการเกษตรคาร์บอนต่ำ
ไทยมีเศษชีวมวลจากเกษตรจำนวนมาก → แปรรูปเป็น Biochar สร้าง CDR + ใช้ปรับปรุงคุณภาพดิน
2.Blue Carbon (ป่าชายเลน/หญ้าทะเล)
ไทยมีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ → สามารถเป็นฐานเครดิต CDR ที่ตลาดโลกต้องการ
3.Forestation Projects
การฟื้นฟูป่าและเกษตรป่าไม้ (Agroforestry) สามารถสร้าง CDR และเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน

Carbon Removal Credits (CDR) คือ คาร์บอนเครดิตรุ่นใหม่ ที่โลกให้คุณค่ามากกว่าเดิม เพราะไม่ได้แค่ “เลี่ยงการปล่อย” แต่เป็นการ “กำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศจริง” แม้จะมีราคาสูงและความท้าทายหลายด้าน แต่ดีมานด์กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย โอกาสอยู่ที่ Biochar, Blue Carbon และการเกษตรคาร์บอนต่ำ หากสามารถสร้างระบบตรวจสอบที่เชื่อถือได้ ไทยอาจก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด CDR โลก และใช้เครดิตรุ่นใหม่นี้เป็น สะพานสู่ Net Zero ที่แท้จริง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้