หลายองค์กรที่เริ่มทำด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน มักสับสนระหว่าง ISO 14064-1 และ CFO (Carbon Footprint for Organization) ว่าคือเรื่องเดียวกันหรือไม่
ความจริงแล้ว ทั้งสองเรื่อง “ใกล้กันแต่ไม่เหมือนกัน” และเข้าใจถูกตั้งแต่แรกจะช่วยให้องค์กรทำงานง่ายขึ้น
CFO (Carbon Footprint for Organization) คืออะไร?
- การวัด ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขององค์กรในปีหนึ่ง ๆ
- ครอบคลุม Scope 1, Scope 2 และ Scope 3 ตามมาตรฐานของ TGO (องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก)
- เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ รู้จุดปล่อยหลัก และรายงานตัวเลขคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างเป็นทางการ
- ใช้เพื่อสื่อสารต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น SET, นักลงทุน, คู่ค้า
ISO 14064-1 คืออะไร?- เป็น มาตรฐานสากล (ISO: International Organization for Standardization) สำหรับการวัด รายงาน และทวนสอบปริมาณก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
- ในเวอร์ชันล่าสุด ISO 14064-1:2018 ได้แบ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกเป็น 5 Categories ได้แก่:
- Direct GHG emissions – การปล่อยโดยตรงจากกิจกรรมที่องค์กรควบคุม
- Energy indirect GHG emissions – การปล่อยจากพลังงานที่ซื้อมาใช้
- Indirect GHG emissions from transportation – การปล่อยจากการขนส่ง
- Indirect GHG emissions from products and services used by the organization – การปล่อยจากสินค้าหรือบริการที่องค์กรซื้อมาใช้
- Indirect GHG emissions from the use of products and services from the organization – การปล่อยจากการใช้สินค้าหรือบริการขององค์กรโดยลูกค้า
แล้วธุรกิจควรเลือกอะไร?- ถ้าเป้าหมายคือ รายงานต่อหน่วยงานรัฐหรือตลาดทุนไทย (SET, TGO) → เริ่มจาก CFO
- ถ้าเป้าหมายคือ สร้างการจัดการที่ตรวจสอบได้ในระดับสากล → ทำ ISO 14064-1
- หลายองค์กร เริ่มจาก CFO ก่อน แล้วค่อยต่อยอดสู่ ISO 14064-1 เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในระดับสากล

ทั้งสองอย่างไม่ทับซ้อน แต่ เสริมกัน เพื่อให้องค์กรโปร่งใส เข้าถึงเงินทุนสีเขียว และก้าวทันมาตรฐาน ESG ระดับโลก