Carbon Credit คืออะไร?
Carbon Credit คือหน่วยวัดการลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดย 1 คาร์บอนเครดิต = การลด/ดูดซับก๊าซเรือนกระจก 1 ตัน CO2e (Carbon Dioxide Equivalent)
องค์กรสามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยของตนเองได้ ซึ่งการซื้อขายนี้แบ่งเป็น 2 ตลาดหลัก
1.ตลาดบังคับ (Compliance Market) → ใช้ในประเทศ/ภูมิภาคที่มีกฎหมาย เช่น EU ETS
2.ตลาดสมัครใจ (Voluntary Carbon Market: VCM) → องค์กรสมัครใจเข้ามาลดหรือชดเชยการปล่อยเพื่อตอบโจทย์ Net Zero และสร้างภาพลักษณ์ที่ยั่งยืน
T-VER: กลไกคาร์บอนเครดิตไทย
ในประเทศไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ได้จัดตั้งกลไก Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) เพื่อส่งเสริมให้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกได้รับการรับรองและสามารถออกคาร์บอนเครดิตได้
ตัวอย่างโครงการ T-VER ที่พบในไทย ได้แก่
ในประเทศไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ได้จัดตั้งกลไก Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) เพื่อส่งเสริมให้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกได้รับการรับรองและสามารถออกคาร์บอนเครดิตได้
ตัวอย่างโครงการ T-VER ที่พบในไทย ได้แก่
1.โครงการพลังงานหมุนเวียน (Solar Farm, Biomass, Biogas)
2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในอุตสาหกรรม
3.โครงการด้านป่าไม้และเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำ
Offsetting vs Insetting: กลยุทธ์สู่ Net Zero
1.Offsetting → การชดเชยคาร์บอนโดยการซื้อเครดิตจากโครงการภายนอก เช่น ซื้อ T-VER จากโครงการพลังงานหมุนเวียนหรือป่าไม้
2. Insetting → การลงทุนในโครงการลดคาร์บอนภายใน Value Chain ขององค์กรเอง เช่น การทำโครงการลดคาร์บอนร่วมกับซัพพลายเออร์ หรือการปลูกป่าในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
ทำไม Carbon Credit & Net Zero Strategy จึงสำคัญต่อธุรกิจไทย?
1.ตอบโจทย์ตลาดส่งออก: ลูกค้าใน EU, US, ญี่ปุ่น เริ่มเรียกร้องให้องค์กรมี Carbon Neutral/Net Zero Target
2.เพิ่มความน่าเชื่อถือด้าน ESG: นักลงทุนสถาบันและตลาดทุนให้ความสำคัญกับการจัดการคาร์บอน
3.สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ องค์กรสามารถขายเครดิตจากโครงการของตนเอง → สร้างรายได้เสริม
4.ลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในอนาคต ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) หรือ CBAM ของ EU จะทำให้บริษัทที่ไม่จัดการคาร์บอนเสียเปรียบ
บทบาทของที่ปรึกษาคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่ปรึกษาสามารถช่วยองค์กรไทยได้จริงในหลายด้าน เช่น
1.ทำ Carbon Footprint for Organization (CFO) เพื่อวัดปริมาณการปล่อยจริง
2.วาง Roadmap Net Zero → จัดลำดับการลดคาร์บอนก่อนการชดเชย
3.ให้คำปรึกษาเรื่องการ เลือกโครงการ T-VER หรือโครงการสากล (Gold Standard, VCS) ที่มีคุณภาพ
4.สร้าง กลยุทธ์ Offsetting/Insetting ที่เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท
เส้นทางสู่ Net Zero ขององค์กรไทยไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการลดการปล่อยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัย Carbon Credit และกลยุทธ์ Offsetting/Insetting มาช่วยเสริมพลัง โดยตลาด T-VER ของไทย กำลังเป็นกลไกสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม
สำหรับองค์กรที่ต้องการก้าวสู่ความยั่งยืน การเริ่มต้นกับ Carbon Footprint, Carbon Credit และ Net Zero Strategy ไม่ใช่แค่การ “ตามกระแส” แต่คือ การลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจ
